
เมื่อเช้าวันที่ 7 มกราคม พ.ศ.2566 ได้พบรายงานว่า แจ็ค หม่านั้นจะมีการได้สละสิทธิ์ในการดูแลควบคุมแอนท์ กรุ๊ป ที่เป็นธุรกิจของการเงินในด้านเครือข่าย มีการถอยห่างจากโลกในออนไลน์อีกด้วย หลังจากที่เกิดการปราบปรามด้านเทคโนโลยีที่ไม่เคยเกิดขึ้นจากในประเทศจีนนั้นมาก่อน
จากบริษัทนั้นจะมีการให้สิทธิกับบุคคลจำนวน 10 คน โดยรวมถึงผู้ที่มีการสร้างคัดเลือกผู้ที่บริหารและพนักงาน ได้มีสิทธิในการออกเสียงได้อย่างมีอิสระ และจัดการการควบคุมดูแลในเรื่องของการลงคะแนนขององค์กร แอนท์ กรุ๊ป ของแจ็ค หม่า ตามที่มีการออกมาบอกในวันที่ 7 มกราคม พ.ศ.2566 แต่ใดๆการที่ควบคุมอำนาจนี้จะไม่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงด้านของทางในด้านเศรษฐกิจใดๆ

นอกจากนี้ แจ็ค หม่า ได้มีการห่างหายไปจากสังคมออนไลน์ตั้งแต่ที่มีการกล่าวสุนทรพจน์ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ของหน่วยงานที่ดูแลจัดการก่อนจะขึ้นบัญชีของรายชื่อ แอนท์ กรุ๊ป ในปี พ.ศ.2563 และทางด้านพันธมิตรของแจ็ค หม่าก็มีการได้สละบทบาทในด้านต่างๆ อย่างเป็นทางการ แต่มีการเพิ่มในเรื่องของการบริจาคเพื่อการกุศลมากขึ้น โดยที่จะทำให้เข้ากับมุมมองวิสัยทัศน์ของทางด้านประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ให้ทะลุเป้าหมายตามที่ว่า ความเจริญด้วยกัน
ทางด้านขององค์กร แอนท์ กรุ๊ป นั้นก็จะมีการมุ่งเน้นไปในส่วนของการดูแลใส่ใจด้านหน่วยงาน แอนท์ กรุ๊ปนั้นยังมีการเพิ่มเรื่องของทุนธุรกิจสินเชื่อทางด้านผู้ที่บริโภค พร้อมกับมีการย้ายไปสร้างไฟร์วอลล์ที่เคยมีการได้รับอนุญาต ไปยังด้านการบริการของธุรกิจด้านการบริหารความมั่นคงและในส่วนของธุรกิจสินเชื่อสำหรับผู้บริโภคอีกด้วย
สุดท้ายการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ก็จะมีความหมายว่า แอนท์ กรุ๊ปนั้น จะมีการรอคอยนานมากขึ้นในส่วนของแผนที่ได้เสนอขายหุ้นต่อประชาชนนั้นๆรวมถึง ไอพีโอ ก็จะมีผลทำให้บริษัทนั้น จะไม่สามารถจดทะเบียนในด้านการตลาดหุ้นจีนในแผ่นดินใหญ่ๆที่เรียกกันว่า A-share ได้อีกด้วย เพราะมีข้อตกลงว่า ห้ามทำ ถ้าเกิดหากมีการเปลี่ยนไปของผู้ที่ควบคุมถือหุ้นรายใหญ่ๆของใน 3 ปีที่ผ่านมานั้น หรือที่กรณีมีการจะทะเบียนของในตลาด STAR ในเซี่ยงไฮ้ ตลอดระยะเวลา 2 ปี ที่ผ่านมานั้น และทางด้านกรณีตลาดหุ้นของฮ่องกงนั้นก็เป็นระยะเวลาที่รอประมาณ 1 ปี

นอกจากนี้เมื่อวันที่ 5 มกราคม พ.ศ.2566 ได้มีข่าวว่า แจ็ค หม่า มหาเศรษฐีของระดับโลกนั้นได้มีการเดินทางมาแวะชิมอาหารที่ร้านเจ๊ไฝอีกด้วย แถมได้รับคำชมว่า อาหารอร่อย
เครดิต : www.prachachat.net, Twitter