มีนายสัตวแพทย์ท่านหนึ่ง ที่เป็นอธิบดีกรมปศุสัตว์ ออกมาบอกว่า ทางกรมปศุสัตว์มีการรายงานเข้ามาว่า มีการจับกุมผู้ที่มีการลักลอบนำเข้าของซากหมูที่แถวด้านชายแดนในจังหวัดสระแก้วนั้น และเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2565 ตรงด่านกักกันได้ร่วมกันจับผู้ที่มีการกระทำผิดในข้อหาลักลอบซากของหมูเข้ามาจากประเทศกัมพูชา เป็นจำนวนประมาณ 1,500 กิโลกรัมและมีการเกี่ยวข้องกับร้าน หมูกระทะ

และรูปแบบในการลักลอบที่กระทำความผิดนั้นมีการเริ่มจากการที่สั่งซื้อสินค้ากับผู้ประกอบการในกัมพูชา และนำมาแอบซุกซ่อนไว้ ณ บริเวณชายแดน หลังจากนั้นก็จะนำรถเข้าไปลำเลียงโดยใช้กระสอบผ้ามือ 2 ทับหลังซากหมูเข้ามาเพื่อจะไม่ให้เจ้าหน้าที่เห็นและระหว่างการขับรถออกมาจากแนวชายแดนนั้นก็ได้พบชุดลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่ จึงรีบที่จะขับรถหนี จากนั้นเจ้าหน้าที่ขับตามได้และจับได้ในอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว

การลักลอบนำซากหมูเข้ามามีรูปแบบคล้ายๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วในวันที่ 22 ต.ค.65 ที่ผ่านมา โดยแอบลักลอบเข้ามาในช่องทางตามธรรมชาติของแนวชายแดนไทยและกัมพูชา เป็นจำนวน 2,000 กิโลกรัม ณ บริเวณบ้านเขาตาง๊อก ตำบลคลองหาด อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว

ในวันที่ 31 ต.ค.65 มีการจับกุมในระหว่างการแอบขนซากหมู เป็นจำนวน 5,000 กิโลกรัม แถวๆบริเวณในหมู่บ้านหนองปรือ ที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว และทางหน่วยงานความมั่นคงจึงเข้มงวดและคอยระวัง ติดตามอย่างเข้มงวด

ทั้งนี้ทางกรมปศุสัตว์ได้ส่งเจ้าหน้าที่ของด่านกักกันสัตว์จังหวัดชลบุรี ได้บุกตรวจสอบไปที่แหล่งที่มีการลักลอบของเนื้อสัตว์ที่ถูกแช่ไว้ในถังที่ผสมไปด้วยฟอร์มาลินเจ้าใหญ่ที่ส่งหมูไปยังร้านขายหมูกระทะนั้นแถมยังส่งที่ร้านอาหารจำนวนมากกว่า 66 แห่ง ในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงอีกด้วย โดยมีปริมาณน้ำหนัก 25,000 กิโลกรัม เป็นจำนวนเงินมากกว่า 5 ล้านบาทเลย และทางเจ้าของกิจการนั้นก็ยังไม่สามารถแสดงแหล่งที่มาที่ไปได้ จึงเป็นสิ่งที่ไม่ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภคเพราะอาจให้เกิดการแพร่เชื้อโรคระบาดร้ายแรงได้เช่น แอฟริกาอหิวาต์ในหมู และโรคปากเท้าเปื่อย อีกด้วย

เครดิต : www.bangkokbiznews.com